วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การมีแฟนของวัยรุ่น

การมีแฟนของวัยรุ่นไทยในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การสนใจเพศตรงข้ามเป็นธรรมชาติของวัยรุ่น การที่วัยรุ่นจะคบ้พื่อนต่างเพศไม่ใช่เรื่องแปลกปลาดในสังคมปัจจุบัน  แต่วัยรุ่นที่คิดจะมีคู่ครองต้องระวังตนเองให้คบกันในเขตที่เหมาะสม




    ความคิดเกี่ยวกับการมีรักของวัยรุ่นหญิง

เพศหญิงส่วนใหญ่เมื่อย่างเข้าวัยรุ่นแล้วจะมีการตอบสนองทางเพศโดยการหาคู่รัก คนรู้ใจ หรือที่เรียกกันว่าแฟน ผู้หญิงมักจะคิดกับความรักว่าเป็นสิ่งสวยงาม สดใส หรือเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มให้หัวใจ เพื่อทำให้ตนเองมีความสุข  ผู้หญิงเมื่อมีความรัก หรือแอบรักใครสักคนมักจะมองโลกเป็นสีชมพูเหมือนในนิยาย และทุ่มเทกับรักเต็มที่  แต่เมื่อไหร่ที่ผู้ชายทำให้ผู้หญิงต้องมีน้ำตาโดยการแอบนอกใจ ผู้หญิงก็จะคิดว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายที่เลว และห่วย จึงคิดมีอคติกับคนนั้นทันที แต่ถ้าผู้ชายคนนั้นจริงใจกับผู้หญิงอย่างจริงจัง  ผู้หญิงก็จะตอบแทนโดยการมอบรักให้อย่างจริงใจและจะฝากความหวังไว้ที่ผู้ชายคนนั้นโดยที่จะไม่แอบนอกใจ หรือทำให้ผู้ชายคนนั้นผิดหวังเลย  ถ้าผู้ชายคนไหนต้องการจะมีรักกับผู้หญิงก็ควรจะรักด้วยความจริงใจ และถ้าสัญญาสิ่งใดไว้ก็ต้องทำตามคำสัญญา และอย่าทำให้ผู้หญิงผิดหวัง

    ความคิดเกี่ยวกับการมีรักของเพศชาย

เพศชายส่วนใหญ่เมื่อย่างเข้าสุ่วัยรุ่น ก็ไม่ต่างอะไรกับเพศหญิงมากนักคือต้องการที่จะตอบสนองทางเพศโดยการหาคู่รักหรือคนรู้ใจมาช่วยเติมเต็มให้กับหัวใจ  ผู้ชายมักจะมองว่าความรักเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ตนเองมีความสุขได้  และมักจะคิดว่าความรักคือการมีSEX ซึ่งผู้ชายทั่วไปเมื่อคิดจะมีความรักก็จะมองผู้หญิงจากหน้าตาเป็นอันดับแรก และจะคิดเรื่องSEXเป็นลำดับต่อมา ซึ่งผู้ชายโดยทั่วไปอยากมีแฟนสวย อยากมีแฟนเป็นคนดัง และเป็นที่รู้จักกันทั่ว ผู้ชายเมื่อเป็นแฟนกับผู้หญิงไปนานๆ  ก็จะแอบแตะเนื้อต้องตัวเราและต่อไป เพศชายก็อาจจะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยแต่การกระทำเหล่านี้อาจส่งผลทำให้ผู้หญิงกลัวและไม่กล้าที่จะเป็นปแฟนกันต่อไปได้อีก  จึงเป็นสาเหตุทำให้เลิกกันได้


      ลักษณะการคบเพื่อนต่างเพศ

-คบแบบเพื่อน
-คบแบบคู่ครองหรือคู่รัก
 วัยรุ่นอายุระหว่าง14-16ปีเด็กผู้ชายจะเริ่มสนใจผู้หญิง  บางคนเริ่มจับคู่กัน  วัยรุ่นชายและหญิงต้องการตอบสนองทางเพศที่ต่างกัน
การคบกันแบบคู่ควงหรือคู่รักความรักระหว่างหญิงชาย มักเริ่มต้นจากความรู้สึกชอบพอกัน อารมณ์รักที่เกิดขึ้นจะทำให้...ทั้งคู่รู้สึกคิดถึงกัน อยากเห็นหน้าและต้องการพูดคุยใกล้ชิดกันตลอดเวลา ความรักทำให้คนมีพลัง ชีวิตที่มีความรักจะเต็มไปด้วยความสดใส กระชุ่มกระชวย แต่อารมณ์รักของหญิงและชายก็มีการแสดงออกที่แตกต่างกันอยู่ไม่น้อย เพราะธรรมชาติสร้างผู้ชายและผู้หญิงให้มีความแตกต่างกันทั้งทางร่างกายและจิตใจ และนั่นเป็นสาเหตุที่อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์



ความรัก...เป็นเหตุให้ชายและหญิงต้องการอยู่ใกล้ชิดกัน ได้นั่งพูดคุย หยอกล้อ สบตากันปิ๊งๆๆ อยากสัมผัสมือกัน จูงมือเดินคุยกันกระหนุงกระหนิง เมื่อสัมพันธภาพแน่นแฟ้มมากขึ้น ก็เปลี่ยนจากการจับมือเป็นโอบไหล่ กอดคอ ในช่วงแรกๆ การพบกันทุกครั้งยังอยู่ในที่เปิดเผย เพราะฝ่ายหญิงอาจจะยังไม่แน่ใจในฝ่ายชายมากนัก แต่เมื่อความรักดำเนินการไปถึงขั้นไว้วางใจ ทั้งคู่จะเริ่มรู้สึกว่าต้องการมีเวลาอยู่กันตามลำพังโดยไม่มีเพื่อนๆ คอยขัดคอหรือถูกแซวเวลาจีบกัน



การนัดพบเป็นกลุ่มจึงเปลี่ยนเป็นการนัดพบกันตามลำพังสองต่อสองในที่ลับตาคนมากขึ้น เพราะทั้งคู่เริ่มต้องการความเป็นส่วนตัวที่จะสามารถจู๋จี๋กันได้อย่างสนิทใจ แบบไม่มี ก-ข-ค โดยไม่ได้เฉลียวใจแม้แต่น้อยว่าความใกล้ชิดประกอบกับความพึงพอใจ และความแตกต่างระหว่างชายหญิงจะเป็นบันไดที่นำไปสู่ความรัก...ซึ่งเป็นความปรารถนาที่ซ่อนเร้นของมนุษย์ที่กำลังตกอยู่ในความรัก เมื่อพูดถึงตรงนี้น้องๆผู้หญิงทั้งหลายมักจะเถียงว่า เป็นไปไม่ได้หรอก เพราะตนเองไม่ได้คิดถึงเรื่องทำนองนั้นเลย เพียงแต่ต้องการอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เราพอใจเท่นั้นก็รู้สึกดีแล้ว แต่น้องๆอย่าลืมว่าผู้ชายเขาคิดต่างกับเรา


- วัยรุ่นหญิงต้องการเพียง " ความรัก " ความรู้สึกอบอุ่นใจ มีคนปกป้อง ห่วงใย ต้องการความโรแมนติกเท่านั้น



- วัยรุ่นชายเริ่มต้องการ " ความใคร่ " ฝ่ายหญิงอาจเพลี่ยงพล้ำ ถ้าปล่อยตัว ปล่อยใจให้เคลิบเคลิ้มไปกับอารมณ์โรแมนติกโดยไม่รู้ตัว


ผลของการเผลอใจ การเผลอใจอาจทำให้วัยรุ่นตั้งครรภ์ก่อนถึงเวลาอันควร ซึ่งตัววัยรุ่นเอง ครอบครัวและสังคมยอมรับไม่ได้


วัยรุ่นควรลองถามตัวเองดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าตั้งครรภ์ในขณะที่เรียน


- พ่อแม่จะว่าอย่างไร


- การเรียนที่โรงเรียนจะเป็นอย่างไร


- เพื่อนบ้านเขาจะพูดว่าอย่างไร


- พ่อของลูกจะรับผิดชอบหรือไม่


- จะเลี้ยงลูกอย่างไร


- จะผิดศีลธรรมและเป็นตราบาปหรือไม่


ถ้าคิดจะไว้วางใจคนที่เรารักก็อาจจะต้องระมัดระวังใจของเราเองด้วย หากคิดว่าไม่ต้องการเสียสาวก่อนวัยอันสมควรและคิดว่าเรายังไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ ทางเลือกที่ดีก็คือ พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ด้วยกันสองต่อสองกับคนที่เรารักในที่ลับตาคนเสียนะคะ อย่าคิดผยองใจว่า ฉันเป็นคนใจแข็งคงเอาตัวรอดได้น่ะ เพราะเจอมานักต่อนักแล้ว ที่คนเหล่านั้นต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า...เนื่องจากความรักและความใคร่มักเกิดขึ้นพร้อมๆกันเสมอ...



    วัยรุ่นกับการอกหัก

มีวัยรุ่นหลายคนที่เคยพบกับปัญหาถูกแฟนหรือคนรักตีจาก ต้องพกพาความเศร้าเสียใจ ความชอกช้ำระกำใจ ร้องไห้ฟูมฟายว่าตนเองกลายเป็นคนอกหัก ถูกแฟนหรือคนรักหมดรัก ทอดทิ้ง และกล่าวโทษตนเองว่าไม่ดีพอ ไม่สวย ไม่น่ารัก จึงไม่สามารถพิชิตใจคนรักไว้ได้ กล่าวโทษคนรักว่าเขาไม่ดี หลายใจ มากรัก ไม่ซื่อสัตย์ ทั้ง ๆ ที่ตนเองเป็นคนดี ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้เขาทั้งหมด เป็นต้น


หากใครที่กำลังประสบกับปัญหาอกหักอยู่ มาพิจารณากันดีกว่าว่าเมื่ออกหักแล้วจะทำอย่างไร


ลองถามตัวเองว่าอกหักแล้วเราเสียอะไรไปมากมายแค่ไหน แน่นอนเราต้องเสียใจ แต่จะเสียใจมากน้อยแค่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับการทุ่มเทของเรา ถ้าทุ่มเททุกอย่างทั้งกายและใจ ก็ย่อมทำให้เราเสียใจมากกับการทุ่มเท เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าตัวเรา ทรัพย์สิน ของมีค่าต่าง ๆ ที่เราเสียไปดูจะมากมายเหลือเกิน ถ้าจะให้ทำใจได้ก็อาจจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เพื่อคิดทบทวนเรียกศักดิ์ศรีตนเองให้กลับคืนมา


ลองคิดต่อสักนิดว่า เราเสียหมดตัวแล้วหรือ หรือจริง ๆ แล้วเราเสียหน้ามากกว่า


และลองคิดต่อไปว่า คนหักอกเราเขาจะภูมิใจแค่ไหนที่หลอกเราได้สำเร็จ เขาร่าเริงแต่เราเสียใจ คนอย่างนี้ยังมีคุณค่าแก่เราอีกหรือ ทำไมให้เขาชนะเราง่าย ๆ ทำไมเราไม่เข้มแข็งเอาชนะเขาให้ได้บ้าง


ให้ลองมาพิจารณาว่าการอกหักครั้งนี้ เรายังมีสิ่งอื่น ๆ ที่ยังเหลืออยู่อีก นั่นคือเรายังมีศักดิ์ศรี ยังมีคุณค่า ยังมีอนาคตที่ยาวไกล ยังมีพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงที่เข้าอกเข้าใจ รักและต้องการเราอยู่


ฉะนั้น เราต้องดำเนินชีวิตอยู่เพื่อค้นพบในสิ่งที่ดีกว่าเดิม ไม่จมกับอดีตนานเกินไป เมื่อเราค้นพบความสำเร็จ ความลงตัวในชีวิตที่แท้จริง เราจะรู้ว่าประสบการณ์ครั้งเก่าก่อน สอนให้เราต่อสู้ชีวิตได้มากทีเดียว สิ่งที่เราเคยคิดว่าเราสูญเสียไปกับความรักที่ทำให้เราอกหัก แท้จริงไม่ได้มากอย่างที่เราคิดเลย





    วัยรุ่นกับปัญหาความรักข้ามรุ่น

คุณกำลังตกหลุมรักใครบางคนที่มีอายุมากกว่าคุณหลาย ๆ ปี อยู่หรือเปล่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลย ความรักเป็นสิ่งที่ดี ช่วยชุบชูชีวิตให้แจ่มใส เบิกบาน มีความสุข การที่คุณแอบไปรักไปชื่นชมใครบางคนที่มีอายุมากกว่าคุณ เช่น รุ่นพี่ ครูอาจารย์ คงเป็นเพราะใครคนนั้นมีบุคลิกที่น่าประทับใจ มีอัธยาศัยไมตรีที่ดี มีความเป็นสุภาพบุรุษสมชาย หรือไม่ก็สวยน่ารัก ทำให้คุณอดที่จะรักไม่ได้


แต่ความจริงแล้ว ความรู้สึกของคุณนั้นไม่ใช่ความรัก เป็นแค่ความหลงไหลชั่วคราวเท่านั้นเอง เหมือนหลงรักเจ้าชายเจ้าหญิงในฝัน ไม่ช้าเมื่อคุณพบคนใหม่ที่เหมาะสม และอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงที่สังคมยอมรับ คุณก็จะลืมคนเก่าไปเองโดยอัตโนมัติ


เก็บความประทับใจของคุณเอาไว้เป็นความทรงจำที่ดีต่อไปเถอะนะ การแอบรักไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ถ้าคุณเผลอแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งนี่สิคะ เป็นเกิดเรื่องแน่ เพราะย่อมทำให้ต่างฝ่ายต่างเข้าหน้ากันไม่ติด หรือถ้าคุณโชคร้ายไปเจอคนไม่ดี เขาอาจฉวยโอกาสที่คุณหลงรักเขา ตักตวงเอาผลประโยชน์จากคุณ ทำให้คุณต้องเสียใจในภายหลังก็ได้


ตอนนี้คุณยังอยู่ในวัยเรียน ควรจะตั้งใจเรียนให้ดีที่สุด เรื่องรักรอเอาไว้ก่อน คุณยังมีโอกาสพบคนอีกมากมายในชีวิต ถ้าคุณไม่ใจร้อน คุณจะได้เลือกคนที่ดีที่สุดสำหรับคุณไงล่ะ